«

»

ส.ค. 23

แผนการสอน วิชาภาษาอังกฤษ อนุบาลลำปาง

แผนการจัดการเรียนรู้

Unit 1 At  school

รหัสวิชา/ชื่อรายวิชา  ภาษาอังกฤษพื้นฐาน                  กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้น     ประถมศึกษาปีที่ 5                                                   เวลาเรียน  13  ชั่วโมง      ภาคเรียนที่ ____________

ผู้สอน _______________________________          โรงเรียน ___________________________________

 

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดชั้นปี

สาระที่ 1   ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1  เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตุผล

ตัวชี้วัด    2.  อ่านออกเสียงประโยค  ข้อความ  และบทกลอนสั้นๆ  ถูกต้องตามหลักการอ่าน

3.  ระบุ/วาดภาพ  สัญลักษณ์  หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค  และข้อความสั้นๆ ที่ฟังหรืออ่าน

4.  บอกใจความสำคัญ  และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา  และนิทานง่ายๆ  หรือเรื่องสั้นๆ

มาตรฐาน ต 1.2  มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร  แสดงความรู้สึกและ

ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด    4.  พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง  เพื่อน  ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว

5.  พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว  และกิจกรรมต่างๆ  พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ  ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3  นำเสนอข้อมูลข่าวสาร  ความคิดรวบยอด  และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและ

                                การเขียน

ตัวชี้วัด    1.  พูด/เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว

2.  เขียนภาพ  แผนผัง  และแผนภูมิแสดงข้อมูลต่างๆ  ตามที่ฟังหรืออ่าน

3.   พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ  เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  ใกล้ตัว

สาระที่ 2  ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1  เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด    3.  เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

 

มาตรฐาน ต 2.2  เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา

และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวชี้วัด    1.  บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระที่ 4  ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1  ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด   1.  ฟัง/พูด และอ่าน/เขียน ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2  ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชี้วัด   1.  ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่างๆ

 

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

 

           การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียน  วิธีการเดินทางไปโรงเรียน  การใช้  Present  Simple  Tense  และการออกเสียงประโยคคำถามให้ถูกต้อง  ซึ่งจะต้องลงเสียงต่ำ  จะทำให้ผู้เรียนสามารถพูดและเขียนเกี่ยวกับวิชาที่เรียน  และวิธีการเดินทางไปโรงเรียนได้  โดยจะเป็นพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

 

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

– กลุ่มคำ ประโยค  และความหมายเกี่ยวกับตนเอง  และโรงเรียน

– ประโยค บทสนทนา และเนื้อเรื่องสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ

– คำศัพท์  และประโยคเกี่ยวกับวิชาที่เรียน  เช่น

A   :   What  do  you  have  on  Wednesday  morning?

B   :   I  sometimes  have  I.T.

– คำศัพท์และประโยคที่ถามเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ  เช่น

A   :   How  do  you  go  to  school?

B   :   I  always  go  to  school  on  foot.

– ประโยค Present  Simple  Tense

– ประโยคและข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

– คำ  กลุ่มคำที่มีความหมายสัมพันธ์กับข้อมูลต่างๆ  เช่น  กราฟ

–  กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม  เช่น  การเล่นเกม  การร้องเพลง

–  การใช้ภาษาในการฟัง / พูดในสถานการณ์ง่ายๆ  ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

–  การใช้ภาษาต่างประเทศในการค้นหาและ  รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องใกล้ตัวจาก ipad

3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

                               

 

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

           4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

           4.2 ความสามารถในการคิด

– ทักษะการคิดวิเคราะห์

– ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

           4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะทางภาษา

– กระบวนการปฏิบัติ  (ฟัง  พูด  อ่าน  เขียน)

– กระบวนการทำงานกลุ่ม

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

–  ซื่อสัตย์สุจริต

–  ใฝ่เรียนรู้

–  มุ่งมั่นในการทำงาน

 

6. ชิ้นงาน/ภาระงาน

 

– การพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับวิชาที่เรียน

– การเขียนอีเมล์ถึงเพื่อนเกี่ยวกับโรงเรียนของตน

– การพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ

– การใช้คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ประกอบประโยค

– การอ่านออกเสียงอีเมล์ตามที่กำหนด

– การทำกราฟแท่งเพื่อแสดงข้อมูลที่กำหนด

– การรวบรวมคำศัพท์ใน  Your  word  book

 

7. การวัดและการประเมินผล

7.1 การประเมินก่อนเรียน

– ประเมินการทำแบบทดสอบ

           7.2  การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

– ประเมินการทำแบบฝึกหัด

– สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทำกิจกรรม

7.3 การประเมินหลังการเรียน

– ประเมินการทำแบบทดสอบ

– ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์

           7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

– ประเมินการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับวิชาที่เรียน

– ประเมินการเขียนอีเมล์ถึงเพื่อนเกี่ยวกับโรงเรียนของตน

– ประเมินการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ

– ประเมินการใช้คำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ประกอบประโยค

– ประเมินการอ่านออกเสียงอีเมล์ตามที่กำหนด

– ประเมินการทำกราฟแท่งเพื่อแสดงข้อมูลที่กำหนด

– ประเมินการรวบรวมคำศัพท์ใน  Your  word  book

 

8. กิจกรรมการเรียนรู้

–  กิจกรรมนำสู่การเรียน

–  กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ดังแนบมาพร้อมนี้

–  กิจกรรมรวบยอด

 

9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

1.  ipad

2.  app Daily  Eiglish , 1000 Words , speakingPal

3. Internet

 

 

 

 

 

 

 

 

แผนการจัดการเรียนรู้

Unit 1 At  school  (Lesson 1)

1. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียน  การทักทาย  การใช้  Present  Simple  Tense  และการออกเสียงประโยคคำถาม  ซึ่งจะต้องลงเสียงต่ำ  จะทำให้ผู้เรียนสามารถพูดและเขียนเกี่ยวกับวิชา

ที่เรียน  และการทักทายกันได้  โดยจะเป็นพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

 

2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

                                –  ออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้

–  พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาที่เรียนได้

                     –  เขียนอีเมล์ถึงเพื่อนเกี่ยวกับโรงเรียนของตนได้

–  อ่านออกเสียงประโยคตามที่กำหนดได้

–  ใช้ประโยค  Present  Simple  Tense  ได้ถูกต้อง

 

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

– กลุ่มคำ ประโยค  และความหมายเกี่ยวกับตนเอง  และโรงเรียน

– ประโยค บทสนทนา และเนื้อเรื่องสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ

– คำศัพท์  และประโยคเกี่ยวกับวิชาที่เรียน  เช่น

A   :   What  do  you  have  on  Wednesday  morning?

B   :   I  sometimes  have  I.T.

– ประโยค Present  Simple  Tense

– ประโยคและข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

–  การใช้ภาษาในการฟัง / พูดในสถานการณ์ง่ายๆ  ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน

3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น      

                               

 

 

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

           4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

           4.2 ความสามารถในการคิด

– ทักษะการคิดวิเคราะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะทางภาษา

– กระบวนการปฏิบัติ  (ฟัง  พูด  อ่าน  เขียน)

– กระบวนการทำงานกลุ่ม

 

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

–  ซื่อสัตย์สุจริต

–  ใฝ่เรียนรู้

–  มุ่งมั่นในการทำงาน

 

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 

6.1  ชั่วโมงที่ 1-2

 

óกิจกรรมนำสู่การเรียน

  1. ครูทักทายนักเรียนในชั้น  และให้นักเรียนทักทายตอบครู  เสร็จแล้วครูถามทุกข์สุขของนักเรียน  ดังนี้

                                      Teacher            :            Good  morning  (afternoon),  how  are  you?

                                      Students           :            Good  morning,  I’m  fine,  thank  you. 

  1. ครูแนะนำ app  speakingpal  เป็นการฝึกการพูดทักทายกัน
  2. นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน  หน้า  4  ข้อ  1  What  can  you  see?  ครูชี้ทีละภาพให้นักเรียนบอกว่าเห็นใคร กำลังทำอะไร ที่ไหน  โดยครูพยายามพูดภาษาอังกฤษในชั้นเรียนให้มากที่สุด  เช่น

                                      Teacher            :            (ชี้ที่ภาพแรก)  What  do  you  see?

                                      Students           :            Boys  and  girls.

                                      Teacher            :            What  are  they  doing?

                                      Students           :            They  are  standing.

                                      Teacher            :            Where  are  they?

                                      Students           :            They  are  in  a  room.  (หรือ  They  are  at  school.) etc.

ครูถามคำถามนักเรียนเกี่ยวกับรายละเอียดภาพจนได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ  และเห็นว่านักเรียน

ทุกคนสามารถพูดออกเสียงภาษาอังกฤษได้

  1. ให้นักเรียนดูภาพเดิมแล้วฟัง  CD  ประกอบ  ในขณะเดียวกันก็พยายามจับใจความให้ได้ว่าเสียงของเจ้าของภาษาต้องการทราบอะไรบ้าง  ครูเปิด  CD/Track  2  ให้นักเรียนฟัง  2  รอบ

 

 

 

 

Look  at  the  picture.  Some  children  are  reading.  Where  are  they?                                  Some  children  are  playing  football.  Where  are  they?  Some  students                                       are  in  the  classroom.  What  subject  have  they  got?  How  many  students                                     are there in  the  computer  room?  Some  students  are  going home.                                        What  time  is  it?

 

ครูให้นักเรียนช่วยกันค้นหาคำศัพท์จาก  app  1000  words  และค้นจาก ipad  จากนั้นจึงช่วยกันตอบ โดยครูเขียนคำตอบ

(Suggested  Answers)

  1. They  are  in  the  library.                                              4.  There  are  two  students.
  2. They  are  playing  in  the  playground.   5.  It’s  half  past  three.
  3. They  have  got  English.                                                     (three  thirty)

 

  1. ครูบอกนักเรียนว่าใน  Unit  1  นี้  นักเรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์  และวิชาต่างๆ  ที่เรียนในโรงเรียนวิธีการและการทักทายกัน   ประโยค  Present  Simple  Tense
    1.  ครูให้นักเรียนเข้า app  Daily  English

 

 

 

óกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

  1. นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน  หน้า  5  ข้อ  1  Listen,  point  and  repeat.  ครูให้นักเรียนหาความหมายของแต่ละภาพ  (Elicit)  และพูดตาม      จากนั้นให้นักเรียนออกเสียงคำศัพท์พร้อมๆ  กัน

 

 

 

 

assembly       uniform        playtime         history      geography          I.T.       office

 

  1. ครูโหลดภาพใน ipad  และปฏิบัติดังนี้

–               ครูให้นักเรียนดูภาพประกอบ  3  ภาพเล็กๆ  ใน ipad  แล้วพูดสนทนากับนักเรียน

                                      Teacher            :            What  do  you  see  in  there  pictures?

                        Students           :            Students,  uniform,   teacher,  playtime,  computer,  geography,  history  ……

                                      Teacher            :            Excellent!

 

 

 

I  am  David.  I  am  eleven  years  old.  I  study  at  Smile  School.  Our  school

uniform  is  blue.  We  have  assembly  at  a  quarter  past  nine  and  the  head

teacher  talks  to  the  students.  Today  I  have  history  and  maths  in  the  morning.             I  have  geography  and  I.T.  in  the  afternoon.  My  playtime  is  after  lunch.

 

–              ครูเฉลยโดยเปิด ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง  และหยุดทีละประโยค  เพื่อให้นักเรียนช่วยกันแปลจนครบทุกประโยค  เสร็จแล้วครูเขียนคำตอบ

1.  years                                                4.  teacher                            7.  I.T.

2.  uniform                          5.  history                             8.  playtime

3.  assembly                         6.  geography

 

 

 

Background  Information

I.T.  ย่อมาจาก  Information  Technology  แปลว่า  “เทคโนโลยีสารสนเทศ”

หรือวิชาคอมพิวเตอร์

 

  1. นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ  5  คน  ช่วยกันคิดหาคำศัพท์รายวิชาต่างๆ  ที่เรียนหรือรู้จักให้มากที่สุด โดยค้นหาจาก ipad     ครูกำหนดเวลาตามความเหมาะสม เมื่อได้แล้วจึงช่วยกันบอกครู

 

science     –    วิทยาศาสตร์          history   –  ประวัติศาสตร์                biology    –   ชีววิทยา

1*  maths –     คณิตศาสตร์          health  education  –  สุขศึกษา         chemistory  –  เคมี

2*  P.E.     –  พลศึกษา                Thai language  –                    ภาษาไทย          physics   –    ฟิสิกส์

English     –   ภาษาอังกฤษ         home  economics  –  คหกรรม        music   –  ดนตรี

social studies  –  สังคมศึกษา     geography  –  ภูมิศาสตร์                   art  –  ศิลปะ

I.T.  –  คอมพิวเตอร์

 

 

Background  Information

1*   maths  –  รูปเต็มคือ  mathematics              2*   P.E.  –  ย่อมาจาก  physical  education

 

  1. นักเรียนอ่านตามครู  แล้วทำการสร้างตารางสอนลงใน  ipad    โดยใช้ข้อมูลจริงจากนักเรียน  ดังนี้

 

        Time

Day

9.00-10.00

10.00-11.00

11.00-12.00

12.00-13.00

13.00-14.00

14.00-15.00

15.00-16.00

Mon

Thai

English

Lunch

computer

history

Tue

maths

music

science

P.E.

Wed

Thai

social studies

music

geography

science

Thu

geography

English

maths

assembly

Fri

home economics

history

health  education

Free

 

 

–              ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับตารางเรียน  ดังนี้

                                      Teacher            :            What  do  you  have  on  Monday?

                                      Students           :            Thai,  English,  computer  and  history.

                                      Teacher            :            What  do  you  have  on  Friday  afternoon?

                                      Students           :            Health  education  and  free..

                                   Teacher            :            Excellent!

 

 

–              ครูเขียนโครงสร้างประโยค เพื่อใช้ในการสนทนา  ดังนี้

 

                                      A           :            What  do  you  have  on         (day)      ?

                                      B           :             I  have       (subject)        and          (subject)     .

 

  1. ครูทบทวนการใช้ประโยค  Present  Simple  Tense  ดังนี้

Tense  คือ  การใช้คำกริยาให้ถูกต้องกับกาลเวลา

Present  Simple  Tense  คือ  การใช้คำกริยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ดังนี้

  1.  เกิดขึ้นเป็นประจำสม่ำเสมอ  เช่น

She  always  goes  to  the  Mall.

We  go  to  London  once  a  year.

  1. เป็นนิสัย  เป็นกิจวัตรประจำวัน  เช่น

I  go  to  school  by  bus.

He  gets  up  at  six  o’clock.

  1. เป็นธรรมชาติ  เป็นความจริง  เช่น

It  is  cold  in  winter.

Birds  fly  in  the  air.

-ประธานเป็นเอกพจน์  กริยาเติม  S

รูปแบบ                                  -ประธานเป็นพหูพจน์  กริยาไม่เติม  S

(I  และ  You  กริยาไม่ต้องเติม  S)

e.g.

 

 

ประธานเอกพจน์

ประธานพหูพจน์  (รวมทั้ง  I  และ  You)

He  walks.

She  walks.

It  walks.

A  cat  walks.

I  walk.

You  walk.

We  walk.

They  walk.

การใช้  Adverb  of  Frequency

                ในประโยค  Present  Simple  Tense  มักมีคำหรือวลีที่บอกถึงความถี่ในการกระทำ  เราเรียกว่า

Adverb  of  Frequency  ซึ่งคำที่มักพบบ่อยๆ  ได้แก่

always  –  เสมอๆ                                               once  a  week  –  หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์

usually   –   ตามปกติ                                         twice  a  day  –  สองครั้งต่อวัน

often  –  บ่อยๆ                                                    sometimes  –  บางครั้ง

every  day  –  ทุกๆ  วัน                                    rarely  –  ไม่ใคร่จะ

never  –  ไม่เคย                                                   three  times  a  year  –  สามครั้งต่อปี

 

e.g.         Lisa  sometimes  eats  ice-cream.

I  go  to  school  every  day.

We  go  to  Phuket  twice  a  year.                               etc.

หลักการเติม  s  ท้ายคำกริยา  (ใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์เท่านั้น)

  1. ตามปกติคำกริยาเติม  s  ได้ทันที

e.g.                         buy     –     buys                                 give     –     gives

play     –     plays                                               speak     –     speaks

  1. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย  s,  ss,  ch,  sh,  x,  z,  o  ให้เติม  es

e.g.                         pass     –     passes                              fix     –     fixes

teach     –     teaches                          buzz     –     buzzes

push     –     pushes                            go     –     goes

  1. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย  y  ให้เปลี่ยน  y  เป็น  i  แล้วเติม  es

e.g.                         cry     –     cries                                  carry     –     carries

dry     –     dries                                  fly     –     flies

**  แต่ถ้าหน้า  y  เป็นสระ    (a,  e,  i,  o  และ  u)  ให้เติม  s  ได้ทันที  ไม่ต้องเปลี่ยนเป็น  i

e.g.                         play     –     plays                                               buy     –     buys

say     –     says                                   pay     –     pays

อนึ่ง  ในประโยค  Present  Simple  Tense  Verb  to  be         คือ  is,  am,  are

                                                                                Verb  to  have   คือ  have,  has

e.g.         I  am  a  student.

He  learns  English  on  Monday.

We  have  lunch  at  noon.

She  has  maths  on  Tuesday.

 

  1. นักเรียนสำรวจดูคำถามและคำตอบ  ในหนังสือเรียน หน้า  6  ข้อ  3  Listen,  read  and  match  the  questions  with  the  answers.   โดยครูอธิบายคำสั่ง  เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติตามได้ถูกต้อง  (Individual  work)  แล้วครูเปิด  CD/Track  5  ให้นักเรียนฟังก่อน

2  ครั้ง

 

 

 

 

 

 

A            :        Come  on,  Anna.  I’ve  got  a  computer.  Let’s  see  our                    school  website.

B            :        How  do  you  play?

A            :        Click  on  the  picture.   …   Click  here!  Look!  This  is  the  timetable  of  Class  5B.

B            :        What  does  Jack  have  on  Tuesday  morning?

A            :        He’s  science  and  history.

B            :        What  about  Friday  afternoon?  What  has  he  got?

A            :        He’s  geography  and  music.

B            :        Can  we  see  Class  5C?

A            :        Let’s  try.  …  Click  here.  Yes,  here’s  Class  5C.

B            :        What  does  Lisa  have  on  Thursday?

A            :        Let’s  see.  She  has  maths  and  history  in  the  morning  and                she  has  science  and  P.E.  in  the  afternoon.

B            :        Does  she  have  class  at  a  quarter  past  ten?

A            :        No,  she  doesn’t.  She  has  playtime.

 

นักเรียนฟังแล้วลากเส้นจากคำถามไปยังคำตอบที่ถูกต้อง  เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ

1.  c                        2.  b                       3.  a                        4.  e                        5.  d

 

–              ครูเปิด  CD  อีกครั้ง  แล้วหยุดทีละบรรทัด  ให้นักเรียนฟัง  แล้วช่วยกันแปลกับครู

 

óกิจกรรมรวบยอด

  1. ให้นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่มตามความชอบของวิชาที่ตนถนัด  โดยครูกำหนด  7  วิชา  ดังต่อไปนี้

maths     P.E.     English     music     art     computer     history

 

 

นักเรียนภายในกลุ่มอาจมีจำนวนไม่เท่ากัน  แต่ไม่ควรเกินกลุ่มละ  7  คน สมาชิกในกลุ่มต่างระดม

สมอง  (Brain  Storm)  ว่าทำไมจึงชอบวิชานี้  และวิชานี้มีประโยชน์แก่ตนในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร  จากนั้นจึงส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าห้องเรียน  โดยตั้งชื่อกลุ่มเป็นชื่อวิชาที่ตนชอบ

e.g.         กลุ่ม  English   :   “We  like  English  the  most  because  it  is  useful.  We  have  English

on  Monday  and  Tuesday.  It  is  an  international  language.  We  can

use  English  and  understand  people  every  where  in  the  world.”

  1. นักเรียนดูภาพในแบบฝึกหัด  หน้า  4  ข้อ  1  Listen  and  point.  แล้วชี้ตามภาพต่างๆ  ให้ถูกต้องตามที่ได้ยินจาก  CD  ครูเปิด  CD/Track  13  ให้นักเรียนฟัง  2-3  ครั้ง

 

 

  1. The  students  are  in  the  library.
  2. The  students  are  in  the  playground.
  3. Two  students  are  in  the  computer  room.
  4. The  students  are  in  the  classroom.
  5. It’s  half  past  three.

 

ครูเฉลยโดยเปิด  CD  ทีละประโยค  แล้วช่วยกันแปลกับนักเรียน

  1. นักเรียนดูรูปภาพเดิมในแบบฝึกหัด  หน้า  4  และทำกิจกรรม  ข้อ  2  Look  at  the  picture.  Then  complete  the  sentences.  โดยนักเรียนนำคำในตาราง  5  คำ  เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง  และสัมพันธ์กับรูปภาพ  นักเรียนอ่านคำทั้ง  5  คำ  ในตารางพร้อมๆ  กันตามครู  เสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ

 

  1.  library                                              3.  maths                               5.  half  past  three
  2.  playground                     4.  computer  room

 

  1. นักเรียนเปิดแบบฝึกหัด  หน้า  5  ข้อ  1  Find  the  words.  เพื่อหาคำศัพท์ที่ซ่อนอยู่ในตาราง  โดยใช้ipad  ในการค้นหา  นักเรียนจับคู่กับเพื่อนข้างเคียงเพื่อปรึกษากัน  เมื่อพบแล้วให้ใช้ปากกาวงรอบคำศัพท์นั้นๆ  คู่ใดพบคำศัพท์ครบแล้ว  ให้ยกมือขึ้น  เสร็จแล้วครูจึงเฉลยคำศัพท์

 

 

assembly           history                head teacher       uniform

playtime           geography          website                 office                I.T.

 

  1. อ่านข้อความเกี่ยวกับ  Mark  ในแบบฝึกหัด  หน้า  5  ข้อ  2  Read  and  complete.  Use  the  words  in  the  box.  ซึ่งมีคำศัพท์ให้เติมในช่องว่าง  9  คำ  ให้นักเรียนช่วยกันแปลคำศัพท์ดังกล่าว จากนั้นจึงอ่านข้อความที่กำหนด  แล้วหาคำศัพท์ที่อยู่ในตารางมาเติมลงในช่องว่าง  9  ข้อ  โดยข้อที่  1  ได้ทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง  แล้วครูเขียนคำตอบที่ถูกต้องบนกระดาน  ดังนี้

 

  1. studies                       4.   head  teacher                                7.  geography
  2. students                     5.  subjects                           8.  music
  3. assembly                   6.  science                            9.  I.T.

 

แล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน  3  คน  ให้ลุกขึ้นอ่าน  คนละประมาณ  3  บรรทัด

  1. นักเรียนฝึกตารางการฟังอีกครั้งในแบบฝึกหัด  หน้า  6  ข้อ  3  Listen  and  circle.  ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่าในแต่ละประโยคจะมีอยู่  3  ตัวเลือก  คือ  A,  B  และ  C  ให้นักเรียนฟัง  CD  แล้วเลือกข้อที่ถูกต้องตามที่ได้ยิน  โดยไม่ต้องดูเพื่อนๆ  ครูเปิด  CD/Track  14  ให้นักเรียนฟัง 2-3  ครั้ง

 

 

 

Hello!  My  name’s  Polly.  I  go  to  school  at  half  past  eight.  We  have

assembly  at  a  quarter  past  nine.  But  today  the  head  teacher  isn’t  here

so  we’re  having  playtime.  On  Thursday  we  have  maths  and  history.  Today

is  Friday,  and  we’re  having  I.T.  at  the  moment.  I  like  it!  We  have  music

at  1 o’clock  in  the  afternoon.  And  now  we’re  doing  P.E.  I  have  lots  of  fun.

 

–              ครูเปิด  CD  ช้าๆ  ทีละประโยค  แล้วหยุดเพื่อให้นักเรียนช่วยกันแปลจนครบทุกประโยค

–              ครูสุ่มนักเรียนแถวหลังและแถวกลางๆ  รวม  6  คน  เพื่อให้เดินออกมาเขียนประโยคบนกระดาน  6  ประโยค  ตามเนื้อหาของ  CD  ที่ได้ยิน

 

 

–              Polly  goes  to  school  at  half  past  eight.  (B)

–              She  has  assembly  at  a  quarter  past  nine.  (C)

–              But  today  she’s  having  playtime.  (A)

–              On  Thursday  Polly  has  history.  (A)

–              But  today  she’s  having  I.T.  (A)

–              At  1  pm  she  has  music.  (C)

 

นักเรียนทุกคนต่างตรวจคำตอบของตน  แล้วอ่านประโยคบนกระดานพร้อมๆ  กัน

  1. นักเรียนฝึกแต่งประโยคโดยนำคำที่กำหนดให้มาเรียงเป็นประโยคที่ถูกต้องในแบบฝึกหัด  หน้า  6  ข้อ  4  Put  the  words  in  the  correct  order.  ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด  5  ข้อ  นักเรียนสามารถปรึกษากับเพื่อนๆ  ได้  ครูให้เวลานักเรียนคิด  10  นาที  เมื่อครบเวลาที่กำหนด  ครูเรียกนักเรียน      5  คน  ให้ยืนขึ้นพูดประโยคที่ถูกต้อง  แล้วออกมาเขียนบนกระดาน  ครูตรวจและแก้ไขจนได้ประโยคที่ถูกต้อง

 

 

 

  1. I  always  have  maths  on  Monday.
  2. Ben  is  having  P.E.  in  the  gym  right  now.
  3. They  sometimes  have  science  on  Wednesday.
  4. They  are  having  assembly  right  now.
  5. Anna  never  reads  in  the  library.

 

นักเรียนตรวจแก้ไขงานของตนเอง  แล้วอ่านประโยคบนกระดานพร้อมๆ  กัน